วันเสาร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2552

ชีวิตคริสเตียนกับการทดลอง

ใครที่คิดว่าชีวิตหลังรับเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์จะเป็นชีวิตที่สบาย ชิลๆ แล้วล่ะก็คงรู้สึกตัวแล้วว่าผิดถนัด
โลกที่เราอยู่รอบตัวนี้ยังคงมีการทดลองที่พยามจะนำเราออกไปจากทางของพระเจ้า
ในพระคัมภีร์ 1 เปโตรบทที่ 1:6-7 กล่าวว่า
" ในความรอดนั้นท่านทั้งหลายชื่นชมยินดี ถึงแม้ว่าเดี๋ยวนี้ จำเป็นที่ท่านจะต้องทนทุกข์ทรมานชั่วขณะหนึ่งในการถูกทดลองต่างๆ เพื่อการลองดูความเชื่อของท่าน อันประเสริฐยิ่งกว่าทองคำ ซึ่งแม้จะเสียไปได้ก็ยังถูกลองด้วยไฟ จะได้เป็นเหตุให้เกิดการสรรเสริญ เกิดศักดิ์ศรีและเกียรติ ในเวลาที่พระเยซูคริสต์จะเสด็จมาปรากฏ"

ตอนอ่านก็งงนิดหน่อยว่า ทำไมพระเจ้ารู้อยู่ว่าความเชื่อของเรามันอาจจะเสียไปได้จากการทดลอง ทำไมพระองค์ยังทรงต้องให้เราอยู่ในการทดลองอีกนะ แต่ก็ขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ให้ผมได้มีโอกาสไปอ่านหนังสือของ อาจารย์ชาร์ล แสตนลีย์ (Charles Stanley) ชื่อการทดลอง (Winning the war within)

ในหนังสืออาจารย์บอกว่า "การเติบโต กับการทดลอง สองสิ่งนี้จำเป็นที่จะต้องมาด้วยกัน" อาจารย์ยังได้ยกตัวอย่างของการการพายเรือในแม่น้ำที่เชี่ยวสายหนึ่ง ถ้าผู้พาย(เปรียบเทียบได้กับตัวเรา) พยามทำในส่วนของเราคือพายอย่างเต็มที่ นอกจากที่เราข้ามผ่านสายน้ำที่เชี่ยวนี้ไปได้แล้ว เราก็ยังได้พัฒนาร่างกายของเราให้แข็งแรง ประสบการณ์ สติปัญญาในการรับมือกับปัญหา หรือพูดง่ายๆคือเราเติบโตขึ้น
แต่เราเกิดบอกว่าเบื่อแล้ว ขี้เกียจพายแล้ว พอเถอะ เรือก็จะถึงคราวอับปางลง
พระเจ้าเป็นผู้นำให้เราเข้าไปในสถานการณ์ที่ยาก เพราะพระองค์ต้องการให้เราเรียนรู้ที่จะเชื่อฟังพระองค์และเติบโตจนเป็นเหมือนพระองค์ พระองค์ทรงรักเรามากจนไม่สามารถปล่อยให้เราเป็นเด็กที่ไม่รู้จักโตไปตลอดเวลาได้ จริงอยู่ตอนเด็กๆแบเบาะ เราอาจจะไม่ต้องทำอะไร นอนให้คนมาป้อนนมป้อนน้ำ เปลี่ยนผ้าอ้อม แต่ถ้าเราโตจนอายุ 6 ขวบ ยังไม่ยอมหัดทำอะไรเอง พ่อแม่คงกลุ้มใจ
บางคนอาจจะรู้สึกว่าแต่สถานการณ์ที่พระเจ้านำเราเข้าไป มันยากเกินไปสำหรับเรา พระคัมภีร์มีคำตอบไว้ว่า " ไม่มีการทดลองใดๆที่เกิดขึ้นกับท่าน นอกเหนือการทดลองซึ่งเคยเกิดกับมนุษย์ทั้งหลาย พระเจ้าทรงสัตย์ธรรม พระองค์จะไม่ทรงให้ท่านต้องถูกทดลองเกินกว่าที่ท่านจะทนได้ และเมื่อท่านถูกทดลองนั้น พระองค์จะทรงโปรดให้ท่านมีทางที่จะหลีกเลี่ยงได้ด้วย เพื่อท่านจะกำลังทนได้" (1 โครินธ์ 10:13)
แต่มีสามสิ่งสำคัญที่ไม่อาจลืมได้คือ 1) เป็นสิ่งที่แน่ยิ่งกว่าแช่แป้งซะอีกที่เราจะต้องเจอการทดลอง 2) เรามีศักยภาพที่พระเจ้าประทานให้ที่จะเอาชนะการทดลอง ถึงแม้เราจะยังไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบ 3) พระเจ้าพร้อมและทรงต้องการที่จะช่วยเรา เพราะพระองค์อนุญาตให้สิ่งเหล่านี้เข้ามาเพราะพระองค์รู้ดีว่าเราจะเติบโตขึ้นอย่างไร
เมือ่เราชนะการทดลองที่เข้ามาในแต่ละวัน เราก็จะเข้มแข็งขึ้น มีศักดิ์ศรีมากขึ้นเป็นลำดับ (คือเป็นเหมือนพระเยซูคริสต์มากขึ้น) และเมื่อเราเกิดผลแบบนั้นก็จะนำไปสู่การถวายเกียรติแด่พระเจ้าผู้เป็นที่รักยิ่งของเรา
ขอพระเจ้าโปรดช่วยพวกเราด้วยครับที่จะมีชีวิตที่ถวายเกียรติแดพระองค์โดยการเอาชนะการทดลองในแต่ละวันด้วยความหวังและวางใจในพระเจ้า
ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้าอาเมน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น