วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

พยานในความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าในการรักษาหญิงจะแท้งลูก

ช่วงประมาณเมษายน 2559
ปกติที่โบสถ์ร่มเย็น จะมีการอธิษฐานตอนเช้า ประมาณ 6-7 โมง ทุกๆเสาร์อาทิตย์
ปกติเรามักจะไปร่วมอธิษฐานวันอาทิตย์

แต่วันนั้นเป็นวันเสาร์ น่าจะเป็นช่วงเช้ามืด ใกล้ตื่น
เราฝันซึ่งเหมือนจริงมาก ในฝัน เราไปเข้าค่ายกับภรรยา ในค่ายที่จัดโดยที่โบสถ์นั้น มีกิจกรรมเข้าฐาน ออกแนว Adventure หน่อยๆ มีประมาณ สามฐานไล่จากซ้ายมาขวา จะเข้าฐาน ต้องเข้าไปด้านในตัวอาคารซึ่งจะก่อสร้างเป็นสามหลังแยกตามฐาน

เราเข้าไปฐานที่สองและออกมาแล้ว กำลังดูภรรยากับกลุ่มคนเข้าไปที่ฐานที่สามตรงขวามือของเรา
หลังจากเข้าไปไม่นาน ก็พบว่าอาคารที่เป็นฐานที่สามเกิดถล่มออกมาข้างหน้า เราก็รีบวิ่งเข้าไปก็เห็นคนวิ่งหนีตาย เห็นภรรยาเราด้วย เราวิ่งไปอุ้มออกมาได้ แต่ดูเหมือนตอนนั้นภรรยาไม่ได้สติแล้ว เราก็รีบวางมืออธิษฐานทูลขอต่อพระเจ้า ไม่รู้ว่านานแค่ไหน แต่ภรรยาก็ฟื้นคืนสติขึ้นมา เราดีใจมาก ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงพระเจ้าตรัสในใจว่า เราได้ช่วยภรรยาของเจ้าแล้ว ต่อไปเจ้าต้องไปช่วยคนอื่นด้วย
แล้วจากนั้นก็สะดุ้งตื่นขึ้น

ระหว่างที่กำลังงงๆ กับเหตุการณ์ ก็คิดถึงคำพูดของพระเจ้าในฝันว่า "ให้ไปใช่วยคนอื่น" นี่หมายความว่าอย่างไร ดูนาฬิกาก็หกโมงนิดๆ ก็คิดเชื่อมโยงไปกับการอธิษฐานตอนเช้าที่โบสถ์ คิดไปว่า "เอ..หรือเราจะต้องไปช่วยอธิษฐานที่โบสถ์" สุดท้ายก็ตัดสินใจเปลี่ยนเสื้อผ้า ย่องออกจากห้องไม่ให้ลูกตื่น และขับรถไปที่โบสถ์

ไปถึงที่โบสถ์ก็ประมาณเกือบหกโมงครึ่ง ก็เห็นแค่ผู้นำนมัสการไม่เห็นคนอื่น เราก็ร้องเพลงนมัสการพระเจ้า อธิษฐานของเราไป จนประมาณเกือบเจ็ดโมงซึ่งก็ใกล้จะเลิก ก็มีเสียงจากฝั่งขวา (จุดที่เรามองไม่เห็น เพราะห้องเป็นรูปตัว L เรากับเสียงที่ได้ยินมาจากคนละปีก เสียงนั้นบอกว่า อยากให้พวกเราที่อยู่ในห้องช่วยอธิษฐานเผื่อน้องสาวของเค้าที่ตอนนี้อยู่ ICU ท้องได้หกเดือนแต่ดูเหมือนมีภาวะแท้งคุกคามโอกาสแท้งก็มีเยอะ หมอบอกให้น้องเค้าทำใจไว้ แต่เนื่องจากทุกคนก็ดูจะตั้งความหวังกับการจะมีหลานสาวเป็นคนแรก (ก่อนนี้มีแต่ผู้ชาย) ก็เลยยังทำใจยาก ตัวน้องสาวเค้าก็ไม่ได้เป็นคริสเตียน แต่เป็นอิสลาม แต่ตัวพี่เค้าก็เชื่อนะว่าพระเจ้าจะทรงฟัง เรากับพี่อีกคนหนึ่งรวมกับผู้นำนมัสการก็ไปวางมืออธิษฐานให้เค้า ก็เล่าเรื่องของเราที่เราฝันเมื่อเช้า แล้วก็หนุนใจเค้าว่า พระเจ้าทรงฟังแน่ๆ เพราะพระคัมภีร์ก็แสดงให้เห็นถึงหลายๆตัวอย่างที่มีคนมาเข้าเฝ้าพระเยซูเพื่อทูลขอให้ช่วยคนที่เค้ารู้จัก เช่น นายร้อยมาขอร้องให้รักษาทาส  พวกเราจึงวางมือผ่านผู้เชื่อคือพี่คนนี้ให้การรักษาไปสู่น้องสาวและหลานในท้องของเค้า

ขณะอธิษฐานเราก็รู้สึกมั่นใจลึกๆ ว่าพระเจ้าทรงสดับฟังพวกเราจริๆ พระองค์จะตอบแน่นอน เราก็มีสันติสุข พี่เค้าก็มีสันติสุข เราก็ขับรถกลับบ้าน

ต่อมาช่วงเดือนพฤษภาคม มาเจอพี่เค้าหลังเลิกโบสถ์วันอาทิตย์ นึกได้ก็เลยถามพี่เค้าว่าน้องสาวเป็นไงบ้าง พี่เค้าก็ตอบด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม ว่า "หมอให้กลับบ้านได้แล้ว แข็งแรงทั้งแม่ทั้งลูก ตอนนี้รอคลอดตามปกติ" พวกเราก็ขอบคุณสรรเสริญพระเจ้ากัน

โอ้ สรรเสริญพระองค์ที่ให้ต้นได้มีประสบการณ์ในการอัศจรรย์ของพระองค์อีกครั้ง
พระองค์ยังคนเป็นเหมือนเดิม วานนี้ วันนี้ และสืบสืบไปเป็นนิตย์ ดังที่สัญญาไว้ในพระคัมภีร์จริงๆ

นาวี อ. (บันทึกเมื่อวันที่ 25 May 2016)